วิธีการซื้อขายอนุพันธ์ ต่างจากวิธีการซื้อขายหุ้น
การซื้อขายอนุพันธ์มีขั้นตอนหรือกระบวนการซื้อขายที่คล้ายกับการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ คือผู้ลงทุนที่ต้องการซื้อขายในตลาดอนุพันธ์ ทำการสั่งซื้อหรือขายผ่านโบรกเกอร์ ซึ่งโบรกเกอร์นี้ต้องเป็นสมาชิกของตลาดอนุพันธ์ เมื่อผู้ลงทุนส่งคำสั่งซื้อขายผ่านโบรกเกอร์แล้ว โบรกเกอร์จะส่งคำสั่งซื้อขายมายังระบบซื้อขายของตลาดอนุพันธ์ โดยตลาออนุพันธ์จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางคอยจับคู่คำสั่งซื้อขายด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ วิธีการจับคู่คำสั่งซื้อขาย
วิธีการจับคู่คำสั่งซื้อขายอนุพันธ์ ใช้วิธีเดียวกับการจับคู่คำสั่งซื้อขายของหุ้น
วิธีการจับคู่คำสั่งซื้อขายอนุพันธ์ ใช้วิธีเดียวกับการจับคู่คำสั่งซื้อขายหุ้นของตลาดหลักทรัพย์ คือ ใช้หลัก Price / Time priority โดยผู้ลงทุนจะส่งคำสั่งซื้อ (Bid) หรือ คำสั่งขาย (Offer) โดยคำสั่งทุกรายการจะเข้ามาบันทึกอยู่ในระบบเพื่อรอการจับคู่ สัญญาฟิวเจอร์ส จะมีการจับคู่เกิดขึ้นก็ต่อเมื่อราคาซื้อเท่ากับ หรือสูงกว่าราคาขาย โดยผู้ที่ส่งคำสั่งซื้อเข้ามาจะมีฐานะเป็นผู้ซื้อ ผู้ที่ส่งคำสั่งขายเข้ามาก็จะมีฐานะเป็นผู้ขาย คำสั่งซื้อที่มีราคาสูงกว่าจะได้รับการจับคู่ก่อนคำสั่งซื้อที่มีราคาต่ำกว่า และคำสั่งขายที่มีราคาต่ำกว่าจะได้รับการจับคู่ก่อนคำสั่งขายที่มีราคาสูงกว่า ในกรณีที่ราคาสั่งซื้อหรือขายมีค่าเท่ากัน คำสั่งที่ถูกส่งเข้ามาก่อนจะได้รับการจับคู่ก่อน
การส่งรายละเอียดการซื้อขายอนุพันธ์ไปยังสำนักหักบัญชี (TCH)
เมื่อระบบทำการจับคู่คำสั่งซื้อขายแล้ว ระบบจะส่งรายละเอียดของรายการซื้อขายนั้นผ่านไปยัง สำนักหักบัญชี (TCH) เพื่อทำหน้าที่ในการชำระราคา หรือก็คือ สำนักหักบัญชีจะมีหน้าที่คิดกำไรขาดทุนที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และดูแลการรับและจ่ายเงินนั่นเอง สำนักหักบัญชีจึงมีบทบาทสำคัญในตลาดอนุพันธ์ โดยนอกจากดูแลการชำระราคาแล้ว ยังสร้างความน่าเชื่อมั่นให้กับผู้ซื้อขาย โดยเข้ามาเป็นคู่สัญญาให้กับโบรกเกอร์ และเป็นผู้รับประกันการชำระราคาตามจำนวนและเวลาที่กำหนดไว้
ทั้งนี้ สำนักหักบัญชีจะวางระบบบริหารความเสี่ยงไว้เพื่อเป็นการลดความเสียหายที่อาจเกิดจากการเข้าไปรับความเสี่ยงจากคู่สัญญา โดยสำนักหักบัญชีจะกำหนดให้โบรกเกอร์ต้องวางเงินหลักประกัน (Margin) กับสำนักหักบัญชีเพื่อลดความเสียหายจากการผิดสัญญา ในขณะที่โบรกเกอร์ก็จะกำหนดให้ลูกค้าต้องวางเงินประกันไว้กับโบรกเกอร์อีกต่อหนึ่ง
นอกจากนี้ สำนักหักบัญชีจะกำหนดให้ผู้ที่มีฐานะในตลาดอนุพันธ์ไม่ว่าจะเป็นฐานะซื้อ หรือขายในสินค้าตัวใดก็ตาม จะต้องรับรู้กำไร หรือขาดทุนจากฐานะดังกล่าวทุกวัน จนกว่าฐานะในสัญญาจะถูกปิด กระบวนการนี้้เรียกว่า Mark to Market โดยทุกสินวันตลาดก็จะกำหนดราคาที่ใช้ชำระราคาสำหรับอนุพันธ์แต่ละตัว เรียกว่า Sattlement Price จากนั้น สำนักหักบัญชีจะนำราคา Sattlement Price นี้มาคำนวณกำไรขาดทุนที่เกิดขึ้น แล้วนำกำไรหรือขาดทุนที่เกิดขึ้น โอนเข้า หรือ หักออก จากบัญชีเงินหลักประกัน